Main Menu

Recent posts

#1

TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium ปีนี้มีการยกระดับใหม่ทั้งหมด ให้ผู้ขับขี่ได้ความรู้สึกดีๆ ขณะขับขี่อย่างเต็มที่ ในปี 2023 นี้ มีการปรับเปลี่ยนโฉมหน้าตาให้ดูทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน จนคนที่รักในรถยนต์รุ่นนี้ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่านี่คือสิ่งที่รอคอย เป็นรถที่ออกแบบมาใช้งานได้ตอบโจทย์สุดๆ

ขุมกำลังของ TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium
TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium รุ่นนี้เป็นรุ่นทท็อป ฉะนั้นทุกอย่างที่ใส่มาในรุ่นนี้ จะพิเศษกว่ารุ่นเริ่มต้น

เครื่องยนต์
•   ใช้เครื่องยนต์ 2ZR-FBE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ VVT-i
•   ปริมาตรความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 1,798 ซีซี
•   กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 98 แรงม้า ที่/ 5,200 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ 142 / 3,600 นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที
•   ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร
•   อัตราประหยัดน้ำมัน 16 กิโลเมตร/ลิตร

มอเตอร์ไฟฟ้า
•   ใช้มอเตอร์แบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร
•   แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์
•   กำลังไฟฟ้าสูงสุด 53 กิโลวัตต์
•   แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร

ดีไซน์ภายนอก
TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium ไฟหน้าของรุ่นนี้จะเป็น LED โปรเจคเตอร์ พร้อมกับระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ มีไฟสว่างกวางวันแบบ ไฟตัดหมอก และไฟท้าย LED   กระจังหน้าเป็นสีดำเงาและโครเมียม ด้านหลังเป็นสีดำเงา ให้ความรู้สึกดุดัน กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว และเก็บอัตโนมัติได้ ที่ปัดน้ำฝนเป็นแบบหน่วงเวลา และปรับตั้งเวลาได้ พร้อมตัวช่วยในการลดเสียงรบกวน

ดีไซน์ภายใน
TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium จะได้เป็นเบาะนั่งที่ทำมาจากหนังแท้ และหนังสังเคราะห์ เบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับได้ 8 ทิศทาง พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง ช่องเก็บของตรงคอนโซลหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ที่นุ่มเป็นพิเศษ หน้าต่างมีการควบคุมเปิดด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมระบบป้องกันการหนีบ มีกระจกแต่งหน้าตรงแผงบังแดด และมีไฟในห้องโดยสาร

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium มาพร้อมกับแบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียง วิทยุ เป็นระบบสัมผัสบนหน้าจอขนาด 9 นิ้ว มีลำโพงทั้งหมด 6 จุด รองรับการเชื่อมต่อกับ Bluetooth และ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย พร้อม T-Connect มีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12 โวลต์ ระบบปรับอากาศในรถปรับอัตโนมัติ

ระบบความปลอดภัยของ TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium
TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium มาพร้อมกับกล้องมองภาพขณะถอยหลัง ไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นแบบ LED สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ถุงลมนิรภัย 4 จุด เข็มขัดนิรภัยแบบรั้งกลับและผ่อนแรงได้ การเปิดไฟสูงต่ำแบบอัตโนมัติ ระบบช่วยในการออกตัวเมื่ออยู่บนที่ลาดชัด ระบบการควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติ

ราคา
TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,0009,000 บาท


ต้องบอกว่า TOYOTA COROLLA ALTIS HEV Premium ในปี 2023 นี้ เป็นรถที่ออกแบบมาได้ตอบโจทย์สุดๆ ทั้งงสิ่งอำนวยความสะดวก ความสวยงามของรถ รวมถึงระบบความปลอดภัย และด้วยราคาเท่านี้ ต้องบอกว่าคุ้มค่า และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
#2

อวดโฉมกันไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ Honda Civic Type R 2023 รถยนต์จากค่ายดัง Honda ในงาน Motor Show 2023 ความพิเศษของรุ่นนี้ คือการใช้เครื่องยนต์ 330 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า จึงได้กลายเป็นรถยนต์ที่แรงที่สุดของค่ายในรอบ 50 ปีเลยทีเดียว นอกจากนั้นการนำเข้ามาแบบมีจำนวนจำกัดในประเทศไทย จึงได้รับความสนใจในการต้องการเป็นเจ้าของมากมาย

สำหรับ Honda Civic Type R 2023 เป็นรถยนต์สมรรถนะสูง ตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู พัฒนาบนพื้นฐาน Honda Civic รุ่นปกติ แต่ปรับปรุงใหม่เป็นเวอร์ชั่นที่แรงเป็นพิเศษ และได้รับการปรับแต่งช่วงล่างแชสซีส์ การบังคับควบคุมทั้งหมด ใส่ชุดแอโรพาร์ตเพื่อรองรับการขับบนความเร็วสูงราวกับรถแข่งดีดีนี่เอง อีกทั้งยังเป็น Honda Civic ที่แรงสุดเท่าที่ Honda เคยผลิตมาในรอบ 50 ปีเลยทีเดียว

ดีไซน์ภายนอก Honda Civic Type R 2023

ดีไซน์หลักของ Honda Civic Type R 2023 เป็นสไตล์ตัวถังแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู พร้อมติดตั้งชุดแอโรพาร์ตใหม่รอบคัน ชุดกันชนหน้าที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่คาดแถบสีดำเงารวมถึงกระจังหน้า ซึ่ง Type R จะใช้โลโก้ H พื้นสีแดง ส่วนบนฝากระโปรงหน้าเจาะช่องระบายอากาศ คิ้วตกแต่งกรอบหน้าต่าง กระจกมองข้าง รวมถึงวิงหลังขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยสีดำเงาสวยงามโดดเด่น กันชนท้ายออกแบบเป็นดิฟฟิวเซอร์ในตัว พร้อมกับท่อไอเสีย 3 ท่อ ซึ่งจะมีวาล์วควบคุมเมื่อขับที่ความเร็วต่ำ สำหรับล้อเป็นลาย 5 ก้านคู่ สีด้าน ขนาด 19 นิ้ว โชว์คาลิเปอร์เบรกสีแดงสวยฉ่ำ

ดีไซน์ภายใน Honda Civic Type R 2023

หลายส่วนของรถยังยึดมาจาก Honda Civic 2022 ตัวเดิมที่ดีอยู่แล้ว แต่มีการปรับเปลี่ยนบางจุดให้เข้ากับรถสมัยใหม่ที่มากขึ้นด้วย โดยเบาะคู่หน้าเป็นแบบสปอร์ตฮาล์ฟเรซสีแดง หุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ Suede กันลื่นที่ดี ทั้งมีเรือนไมล์ดิจิทัลเลือกโหมดการแสดงผลเฉพาะที่ต้องการ ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างเอาไว้ในหน้าจอเดียว

เครื่องยนต์ Honda Civic Type R 2023

Honda Civic Type R 2023 ครื่องยนต์จะเป็นเบนซิน K20C แบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แล้วให้แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ช่วง 2,600-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าเต็มรูปแบบ

Honda Civic Type R 2023 จะมีให้เลือก 5 สี 5 สไตล์ คือ สีขาว Historic Championship, สีเทา Sonic Grey Pearl, สีแดง Rallye Red, สีน้ำเงิน Boost Blue และ สีดำ Crystal Black Pearl ส่วนราคานั้นจะอยู่ที่ราคา 3,990,000 บาท โดยในบ้านเรานั้นนำเข้ามาแบบมีจำนวนจำกัด
#3

น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามโดดเด่นอยู่ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เป็นน้ำตกที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสได้อย่างล้นหลามกับมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว ในการมี 7 ชั้น ที่แต่ละชั้นมีเรื่องเล่าความเป็นมาเป็นของตัวเอง แล้วแต่ละชั้นต่างมีจุดที่น่าสนใจ มีเอกลักษณ์ทั้ง 7 ชั้น ที่สร้างความประทับใจ หลงใหลให้กับนักท่องเที่ยวที่พบเห็น วันนี้จะมาทำความรู้จักของหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของไทยให้ได้รู้จักกันมากขึ้น

   สำหรับน้ำตกเอราวัณมีที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณของจังหวัดกาญจนบุรี การเดินทางไปไม่ยากเลย เส้นทางสะดวกสบาย มีป้ายบอกทางอยู่ตลอด เป็นสถานที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปีที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวพักผ่อน ไม่ว่าจะมานั่งสบายๆดื่มด่ำกับธรรมชาติ มานั่งปิกนิคกับครอบครัวชิลๆ หรือจะมาเล่นน้ำที่เย็นฉ่ำก็ได้ทั้งหมด แล้วการพิชิตทั้ง 7 ชั้นของน้ำตกแห่งนี้ได้ ก็เป็นความภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะจะต้องผจญภัยไม่น้อยจนกว่าจะถึงยอดของที่นี่

สวรรค์ทั้ง 7 ชั้นของน้ำตกเอราวัณ

ชั้นที่ 1 – ไหลคืนรัง เป็นชั้นแรกจุดเริ่มต้น ที่ความนิยมอาจจะน้อยกว่าชั้นอื่นๆ แต่หากอยากจะแค่มานั่งเล่นสบายๆรับความสดชื่นของน้ำตกและธรรมชาติ ก็ถือว่าเป็นจุดที่ดีเช่นกัน

ชั้นที่ 2 – วังมัจฉา ชั้นที่ 2 นี้ มีจุดเด่นคือมีน้ำตกไหลลงมาอย่างสวยงาม โดยจะมีแอ่งน้ำที่สามารถลงไปเล่นได้ตามใจชอบ สีของน้ำใสจนมองเห็นปลาว่ายเวียนมาเต็มไปหมด สวยงามยามพบเห็นแน่นอน

ชั้นที่ 3 – ผาน้ำตก ชั้นนี้จะเป็นชั้นที่ห้ามเอาอาหารขึ้นไปแล้ว ยกเว้นน้ำดื่มที่สามารถนำติดตัวขึ้นไปได้ เพื่อรักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้ให้มากที่สุด แล้วจากชื่อของชั้นนี้แน่นอนว่ามีผาน้ำตกที่สวยงามมากๆอยู่

ชั้นที่ 4 – อกนางผีเสื้อ ชื่อของชั้นนี้ตั้งขึ้นเพราะว่ามีหินขนาดใหญ่ 2 ก้อนตั้งอยู่ ที่เปรียบเหมือนหน้าอกของผู้หญิง ชาวบ้านในช่วงนั้นจึงตั้งชื่อว่า อกนางผีเสื้อ ซึ่งย่อมาจาก อกของผีเสื้อสมุทรนั่นเอง

ชั้นที่ 5 – เบื่อไม่ลง ชั้นนี้มีจุดเด่นคือน้ำตกเล็กๆเป็นชั้นมีน้ำไหลลงมาอย่างงดงาม แล้วขอบอกได้เลยว่าชั้นนี้สมชื่อที่ตั้งอย่างแท้จริง

ชั้นที่ 6 – ดงพฤกษา ขึ้นมาชั้นนี้จะเห็นความสวยงามของธรรมชาติที่สุดยอดแสนประทับใจ แล้วมีน้ำตกให้พักหายเหนื่อยที่สวยมากๆอีกด้วย

ชั้นที่ 7 – ภูผาเอราวัณ เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสุดหาย มั่นใจเกินร้อยว่าทุกคนที่ขึ้นมาเห็นที่นี่จะต้องหายเหนื่อยจากการขึ้นมาผ่านแต่ละชั้นแน่นอน เพราะความสวยอย่างสุดมหัศจรรย์ มีบ่อน้ำสีมรกตกับพื้นหลังที่เป็นน้ำตกไหลลงมาตลอดเวลา มันคือสวรรค์ดีดีนี่เอง ที่อยากให้ทุกคนมาต้องลองมาให้ได้สักครั้งในชีวิตนี้
#4

อยากจะหนีจากความวุ่นวาย มาย้อมใจและเติมพลังให้กับชีวิต แนะนำว่าคุณต้องมาที่ เกาะพยาม จังหวัดระนอง หรือ มัลดีฟของประเทศไทยที่นี่คุณจะได้เห็นความงามของเกาะอย่างแท้จริง มีอะไรให้คุณได้ดูและชมเยอะมาก กิจกรรมที่น่าสนใจค่อนข้างเยอะ ไม่ค่อยน่าเบื่อเท่าไหร่ เป็นเกาะที่สามารถเข้ามาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวจริงๆ เราอยากให้ทุกท่านได้รู้ข้อมูลของเกาะแห่งนี้เสียก่อน ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง จะได้เป็นข้อมูลในการเตรียมการก่อนที่จะเที่ยวจริงๆ

กิจกรรมที่น่าสนใจ
•   ศึกษาธรรมชาติ มาเที่ยวธรรมชาติทั้งที เราก็ควรทำความรู้จักเกี่ยวกับธรรมชาติเอาไว้บ้าง ที่อ่าวแม่หม้าย ที่นี่มีแห่งให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงาม ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมวิวป่าชายเลน การพายเรือคายัก นอกจากนี้ยังมีวัดบนเกาะ ให้ทุกท่านได้เข้ามาทำบุญไหว้พระอีกด้วย
•   นักพักผ่อน ที่อ่าวเขาควาย เป็นจุดที่เหมาะกับการนักพักผ่อนมากที่สุด เพราะว่าจุดนี้ค่อนข้างสงบ ไม่ค่อยวุ่นวาย มีน้ำที่ใสสะอาด ใครเป็นชอบดื่มด่ำกับบรรยากาศ แนะนำว่ามาที่จุดนี้ให้ได้ คุณจะได้ทั้งความสงบ และความสุขไปพร้อมๆ กัน
•   ดำน้ำ คนที่ชอบความงามของท้องทะเล ไม่ควรพลาดกับกิจกรรมดำน้ำ ที่นี่มีจุดดำน้ำหลายแห่งให้ท่านได้ลงเล่น ไม่ว่าจะเป็นที่หาดเขาควาย ซึ่งธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่นี่ยังคงสมบูรณ์ที่สุด มาเล่นน้ำ มาเก็บภาพสวยๆ ใต้ท้องทะเลได้เลย
•   กิจกรรมสนุกๆ หากคุณชอบความท้าทาย บนเกาะพยามมีกิจกรรมประเภทนี้ให้ท่านได้เล่นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกระดานโต้คลื่น หรือการขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว ก็ทำได้เช่นกัน โดยท่านสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์บนเกาะได้เลย

การเดินทาง
หลังจากที่ท่านเดินทางมาถึงจังหวัดระนองแล้ว ต้องมาต่อเรือที่ท่าเรือเกาะพยายาม จะมีเรือโดยสารพานักท่องเที่ยวได้ยังเกาะพยาม มีเรือหลายประเภทให้ท่านบริการ ไม่ว่าจะเป็นเรือโดยสารทั่วไป หรือเรือเร็ว เลือกได้ตามความสะดวกของนักท่องเที่ยวได้เลย

ค่าบริการในการเข้าชม ฟรี

ที่พักและอาหาร

บนเกาะพยามมีที่พักที่เพียงพอกับนักท่องเที่ยว มีให้เลือกทั้งแบบบ้านพักทั่วไป แบบรีสอร์ท บังกะโล จะมาเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค หรือว่าเป็นกลุ่มเป็นครอบครัว ก็เลือกห้องพักได้ตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องของอาหารการกิน ก็ต้องบอกว่าเยอะมาก มีร้านอาหารบนเกาะให้เลือกหลากหลาย รับรองว่ารสชาติถูกปากทุกท่านแน่นอน ส่วนเรื่องความสะดวกอื่นๆ ก็มีให้ครบ ทั้งสัญญาณโทรศัพท์ และบริการทั่วๆ ไป ร้านขายของต่างๆ
 
พิกัดของ เกาะพยาม
ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
#5

ประวัติ ดไวท์ แม็คนีล ปีกชาวอังกฤษของ เอฟเวอร์ตัน
ทีมชาติ : อังกฤษ U21 10 นัด – 0 ประตู (ยังไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่)
สโมสรปัจจุบัน : เอฟเวอร์ตั้น 39 นัด – 7 ประตู (2022-?)

ดไวท์ แม็คนีล (Dwight McNeil) เกิดวันที่ 22 พฤศจิกายน 1999 ที่ประเทศอังกฤษ เริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วย้ายไปอยู่กับ เบิร์นลีย์ ในปี 2014 แล้วได้เล่นอาชีพกับทีม ในฤดูกาล 2017/18 โดยได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 1 นัด ก่อนจะได้รับโอกาสลงเล่นอีก 28 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู ในฤดูกาล 2018/19

ฤดูกาล 2019/20 ดไวท์ แม็คนีล เป็นตัวหลักของ เบิร์นลีย์ ร่วมกับ คริส วูด และ เจย์ โรดริเกวซ ลงเล่นพรีเมียร์ลีกครบทั้ง 38 นัด ยิง 1 ประตูใส่ เชลซี (แพ้ 2-4) และยิงอีก 1 ประตูใส่ บอร์นมัธ (ชนะ 3-0) จบฤดูกาลดังกล่าว ด้วยการยิง 2 ประตู 6 แอสซิสต์ จาก 40 นัดรวมทุกรายการ

ฤดูกาล 2020/21 ยังเป็นแนวรุกตัวหลักร่วมกับ คริส วูด เช่นเดิม โดยมี แอชลีย์ เวสต์วูด เป็นมิดฟิลด์ตัวหลัก วันที่ 27 มกราคม 2021 (พรีเมียร์ลีก นัดที่ 20) แม็คนีลยิง 1 จ่าย 1 ช่วยให้ทีมชนะ แอสตัน วิลล่า จากนั้นในวันที่ 13 มีนาคม 2021 ยิง 1 ประตูในเกมชนะ เอฟเวอร์ตั้น 2-1 จบฤดูกาลได้ลงเล่น 40 นัดรวมทุกรายการ ยิง 2 จ่าย 5 แอสซิสต์
 
ฤดูกาล 2021/22 ดไวท์ แม็คนีล ยืนตัวจริงตั้งแต่นัดแรก แล้วไม่พลาดพรีเมียร์ลีกสักนัด (ตัวจริง 35 สำรอง 3) ยิง 0 ประตู 1 แอสซิสต์ นั่นเป็นผลงานที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ค้าแข้งมา แล้วนั่นส่งผลให้ต้นสังกัด เบิร์นลีย์ ตกชั้นไปด้วยเช่นกัน

ฤดูกาล 2022/23 เอฟเวอร์ตั้น จ่ายเงิน 20 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญา 5 ปี ซื้อตัว ดไวท์ แม็คนีล ไปร่วมทีม แล้วเป็นตัวหลักของทีมทันที่ ผ่านไปถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2022 แม็คนีลยิง 1 ประตูใส่ เซาแธมป์ตั้น (ชนะ 2-1) แล้วอีก 20 วันต่อมา ยิงอีก 1 ประตูใส่ คริสตัล พาเลซ (ชนะ 3-0) จากนั้นในช่วงท้ายฤดูกาล แม็คนีลยิง 2 ประตูใส่ ไบรท์ตั้น (ชนะ 5-1) จบฤดูกาลด้วยการยิง 7 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ จาก 39 นัดรวมทุกรายการ พาทัพทอฟฟี่รอดตกชั้น

ฤดูกาล 2023/24 (ปัจจุบัน) ดไวท์ แม็คนีล ยังอยู่กับ เอฟเวอร์ตั้น พลาดการลงเล่านพรีเมียร์ลีกสามนัดแรก เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ซึ่งทีมก็แพ้ทั้งสามนัด แล้วนัดที่ 4 กลับมาลงสนามได้อีกครั้งในฐานะตัวสำรอง 15 นาที โดยลงไปแทน เจมส์ การ์เนอร์ ในนาที 75 ช่วยให้ทีมเสมอ  เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-2

ในส่วนของการรับใช้ชาติ ดไวท์ แม็คนีล เคยติดทีมชาติอังกฤษ U20 ลงเล่น 6 นัด ยิง 1 ประตู และติดทีมชาติอังกฤษ U21 ลงเล่น 10 นัด 0 ประตู แต่ยังไม่เคยติดทีมชาติชุดใหญ่
#6

ฟิล โฟเดน กองกลางที่มีความโดดเด่นมากที่สุดของพรีเมียร์ลีก เขาสามารถเล่นเกมได้ทั้งเกมแดนกลาง และการจบสกอร์ สามารถสร้างความอันตรายให้กับทีมคู่แข่งได้ทุกเมื่อ และด้วยความเร็วของเขา ความสามารถของเขา ทำให้ยากต่อการจะหยุดกองกลางตัวนี้ได้

ชื่อเต็ม ฟิลิป วอลเทอร์ โฟเดน
วันเกิด 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 (23 ปี)
สถานที่เกิด สต็อกพอร์ต อังกฤษ
ส่วนสูง 5 ฟุต 7 นิ้ว (1.71 ม.)
ตำแหน่ง กองกลาง

เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ ฟิล โฟเดน

ฟิล โฟเดน ต้องบอกว่าชีวิตของเขาเกิดมาเพื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จริงๆ เพราะตั้งแต่ตอนเด็ก เขาก็เป็นแฟนบอลของ แมนฯ ซิตี้ มาก่อน และหลังจากที่เขาเริ่มเล่นฟุตบอลเมื่ออายุ 8 ขวบ โฟเดน ก็ได้รับทุกจากสโมสร แมนฯ ซิตี้ และด้วยอายุเพียงแค่ 16 ปี ก็มีชื่อของเขาเป็นตัวสำรองในเกมรอบแบ่งกลุ่มในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก แล้ว แต่ว่าในครั้งนั้นยังไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง

หลังจากนั้นอีก 1 ปี โฟเดน ได้มีโอกาสอีกครั้งในการเป็นผู้เล่นสำรองกับทีมชุดใหญ่ในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก และได้ลงเล่นจริง ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุได้แค่ 17 ปีเท่านั้น และในเกม พรีเมียร์ลีก เขาก็ได้ลงเล่นให้กับทีม และเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ จากนั้นในปี 2018 โฟเดน ได้มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก แต่ยังไม่สามารถยิงประตูแรกของตัวเองได้

ในฤดูกาลต่อมาปี 2018-2019 โฟเดน ได้มีโอกาสลงเล่นมากขึ้น ซึ่งเขาสามารถยิงประตูแรกให้กับตัวเองได้ และในปีเดียวกัน เขาก็ยิงประตูแรกในศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้อีกเช่นกัน และฟอร์มของ โฟเดน ก็กลายเป็นที่จับตามองของแฟนบอลอย่างจริงจัง ว่านี่คือเด็กหนุ่มอนาคตไกล ที่จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของทีมอย่างแน่นอน

สำหรับผลงานในระดับทีมชาติ โฟเดน ได้ลงเล่นให้กับทีมตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และก็เป็นกำลังสำคัญในการพาทีมชาติอังกฤษ เข้ารอบชิงชนะเลิศไปได้ ส่วนในฐานะทีมชาติชุดใหญ่นั้น เขาได้เริ่มเล่นครั้งแรกเมื่อปี 2020 ในเกมที่ชนะ ไอซ์แลนด์ 1-0 ในปี 2020 นั่นเอง และก็อยู่ในฐานะนักเตะทีมชาติตลอดมา  แม้ว่าบางช่วงจะถูกขับออก แต่สุดท้ายก็ยังได้รับโอกาสเข้ามารับหน้าที่อีกครั้งจนถึงทุกวันนี้

รางวัลส่วนตัว

•   นักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี : ปี 2017
•   นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ)  : 2020-21, 2021-22

เกียรติประวัติ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้
•   แชมป์พรีเมียร์ลีก : 2017–18, 2018–19, 2020–21, 2021–22
•   แชมป์เอฟเอ คัพ : 2018-19
•   แชมป์อีเอฟแอล คัพ : 2017-18, 2018-2019, 2019-20, 2020-21
•   ชนะเลิศคอมมิวนิตี้ ชิลด์ : 2018, 2019
#7

ประวัติ โยอัน วิสซ่า กองหน้าทีมชาติคองโกของ เบรนท์ฟอร์ด
ทีมชาติ : ดีอาร์ คองโก 20 นัด – 2 ประตู (2020-?)
สโมสรปัจจุบัน : เบรนท์ฟอร์ด

โยอัน วิสซ่า (Yoane Wissa) เกิดวันที่ 3 ธันวาคม 1996 ที่ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับ อคาเดมี่ของสโมสร Épinay-sous-Sénart ช่วงปี 2004-2010 จากนั้นย้ายสู่อคาเดมี่ของ Linas-Montlhéry ช่วงปี 2010-2011 จากนั้นกลับไปอยู่กับ Épinay-sous-Sénart ช่วงปี 2011-2013 แล้วย้ายสู่ Châteauroux แล้วได้สัญญากับทีมในฤดูกาล 2015/16 ได้ลงเล่น 24 นัด

ฤดูกาล 2016/17 อองเชร์ (ลีกเอิง) ซื้อตัว โยอัน วิสซ่า มาร่วมทีม ได้มีโอกาสลงเล่นแค่ 2 นัด จากนั้นปล่อยให้ ลาวาล (ลีก2) และ อซัคซิโอ้ (ลีก2) ยืมตัวไปใช้งาน แล้วถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจ ในการเล่นกับ อซัคซิโอ้ โดยยิงได้ 10 ประตูจาก 28 นัดรวมทุกรายการ

ฤดูกาล 2017/18 ลอริยงต์ ซื้อตัว โยอัน วิสซ่า ไปร่วมทีม เปิดตัวในฤดูกาลนั้นด้วยการยิง 4 ประตูจาก 16 นัด แล้วกลายเป็นตัวหลักในฤดูกาล 2018/19 ลงเล่น 40 นัดรวมทุกรายการ ยิง 6 ประตู ต่อด้วยการยิง 16 ประตูจาก 32 นัด ในฤดูกาล 2019/20 พาทีมคว้าแชมป์ลีก 2 พร้อมขึ้นสู่ ลีกเอิง ในฤดูกาล 2020/21

ฤดูกาล 2020/21 โยอัน วิสซ่า เปิดหัวใน ลีกเอิง นัดแรก ด้วยการยิง 1 ประตู ช่วยให้ ลอริยงต์ เอาชนะ สตราส์บูร์ก 3-1 จากนั้นในลีกเอิง นัดที่ 3 ยิง 1 ประตูใส่ ลองส์ (แพ้ 2-3) แล้วลีกเอิง นัดที่ 5 ยิง 1 ประตูใส่ ลียง (เสมอ 1-1) นอกจากนั้นแล้ว ในวันที่ 12 ธันวาคม 2020 ลีกเอิง นัดที่ 2 วิสซ่ายิง 1 ประตู ช่วยให้ทีมเอาชนะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 3-2 จบฤดูกาลนั้น วิสซาสลงเล่น 40 นัดรวมทุกรายการ ยิง 10 จ่าย 5 แอสซิสต์ ช่วยให้ ลอริยงต์ จบอันดับ 16 รอดตกชั้นแค่ 2 คะแนน

ฤดูกาล 2021/22 เบรนท์ฟอร์ด ซื้อตัว โยอัน วิสซ่า มาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญา 4 ปี เปิดตัวในช่วง 13 นัดแรก ด้วยการลงเป็นสำรอง 4 นัด มี 1 สกอร์ ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 6 ที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 3-3 และอีก 1 สกอร์ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 7 ที่เอาชนะ เวสต์แฮม 2-1

28 พฤศจิกายน 2021 โยอัน วิสซ่า ได้ลงเป็นสำรอง 3 นาทีในเกมชนะ เอฟเวอร์ตั้น 1-0 จากนั้นได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทั้งตัวจริงและสำรองสลับกันไป จบฤดูกาลนั้น วิสซ่าลงเล่น 34 นัดรวมทุกรายการ ยิง 10 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2022/23 โยอัน วิสซ่า เป็นมิดฟิลด์ตัวหลักของ เบรนท์ฟอร์ด ร่วมกับ ไบรอั้น เอ็มบูโม่, มัทเธียส เยนเซ่น และ คริสเตียน นอร์การ์ด ลงเล่น 40 นัดรวมทุกรายการ ยิง 7 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ หนึ่งในนั้นคือการยิง 1 ประตูใส่ ลิเวอร์พูล (ชนะ 3-1) ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 19

ฤดูกาล 2023/24 (ปัจจุบัน) โยอัน วิสซ่า ยังอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 2 นัด ยิง 2 ประตู
#8

ลิเวอร์พูล ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรฟุตบอลที่โด่งดังมากที่สุดในโลกทีมหนึ่ง มีแฟนๆอยู่ทั่วทุกมุมโลกที่คอยติดตามเชียร์อยู่ตลอด อย่างในประเทศไทยบ้านเรา ก็มีแฟนบอลที่เยอะอันดับต้นๆเคียงข้างกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่มีแฟนบอลที่มากที่สุดทีมหนึ่งแบบหนึ่ง การที่ทีมขยับจะทำอะไร มักจะได้รับการจับจ้องอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะกับการซื้อนักเตะใหม่ๆเข้ามาเสริมทีม ที่แต่ละคนจะโดนขุดคุ้ยประวัติต่างๆอย่างละเอียดยิบแทบจะทุกอย่างทั้งในและนอกสนามทันที วันนี้จึงจะมาเจาะลึกพร้อมกับนำเสนอ ว่าปัจจุบันในปี 2023 นี้ นักเตะทั้ง 10 คนที่แพงที่สุดที่ทีมดึงเข้ามาเสริมทีมมีใครบ้าง แล้วคุ้มค่ากับค่าตัวที่ทุ่มไปหรือไม่

นักเตะที่แพงที่สุด 10 อันดับของลิเวอร์พูลในปี 2023

อันดับ 10 - อิบราฮิมา โกนาเต้ ค่าตัว 36 ล้านปอนด์
ปัจจุบัน โกนาเต้ ขึ้นเป็นกองหลังตัวหลักของทีม มีผลงานที่ดีในหลายๆด้าน ผลงานเมื่อเทียบกับค่าตัว ถือว่าสอบผ่านอย่างง่ายดาย

อันดับ 9 – ฟาบินโญ่ ค่าตัว 40 ล้านปอนด์
ฟาบินโญ่ คือนักเตะคนสำคัญของทีม ช่วยทีมคว้าแชมป์มากมายในฐานะตัวหลัก แม้ตอนนี้จะย้ายออกไปเล่นในซาอุดิอาระเบียแล้ว แต่ด้วยผลงานทั้งหมด นี่คือนักเตะที่คุ้มค่า

อันดับ 8 - โคดี้ กัคโป ค่าตัว 42 ล้านปอนด์
ดาวยิงทีมชาติฮอลแลนด์ยังต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาคุ้มค่าแค่ไหนกับการทีมที่คุ้มตัวคว้าเข้ามา ปัจจุบันได้รับโอกาสลงตัวจริงบ่อยๆ

อันดับ 7 - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ค่าตัว 43 ล้านปอนด์
ดาวซัลโวของทีมหลายฤดูกาลติด ยิงประตูช่วยทีมคว้าแชมป์มากมาย นี่คือนักเตะที่คุ้มค่าที่สุดตลอดกาลอันดับต้นๆของสโมสรอย่างแน่นอน

อันดับ 6 - ดิโอโก้ โชต้า ค่าตัว 45 ล้านปอนด์
มีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยๆ แต่โดยรวมมีผลงานที่ดีในแนวรุกไม่น้อย จัดได้ว่าคุ้มค่าตัวอีกคนของทีมคนหนึ่งในรอบหลายปีหลัง

อันดับ 5 หลุยส์ ดิอาซ ค่าตัว 50 ล้านปอนด์
ปีกความเร็วสูงขึ้นแท่นเป็นขวัญใจทีมอย่างรวดเร็วด้วยฟอร์มที่จัดจ้าน แล้วตอนนี้เขาคือตัวหลักในแนวรุกที่ขาดไม่ได้เลยในปี 2023

อันดับ 4 - นาบี เกอิต้า ค่าตัว 52 ล้านปอนด์
เจ็บ เจ็บ เจ็บ คำนิยามสั้นๆของ เกอิต้า ที่ความคุ้มค่าบอกได้สั้นๆว่า ไม่มีแม้แต่น้อย

อันดับ 3 - อลิสซอน เบ็คเกอร์ ค่าตัว 65 ล้านปอนด์
ค่าตัวแพงอันดับต้นๆของโลกในตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่เมื่อเทียบกับผลงานที่มี นี่คือดีลที่คุ้มค่ามหาศาลจากผลงานอันสุดยอดคงเส้นคงวา

อันดับ 2 - เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ค่าตัว 75 ล้านปอนด์
กัปตันทีมคนปัจจุบันของ ลิเวอร์พูล นี่คือหัวใจของทีมอย่างแท้จริง ความคุ้มค่าไม่ต้องพูดถึง การทำให้เกมรับแข็งแกร่งขึ้นทันตาเห็น พร้อมนำทีมกวาดความสำเร็จมากมาย นี่คือนักเตะที่แฟนๆยกให้ของจริง

อันดับ 1 - ดาร์วิน นูนเญซ ค่าตัว 85 ล้านปอนด์
กองหน้าค่าตัวแพงรายนี้ยังต้องพิสูจน์ตัวเองกันต่อไปในฐานะนักเตะที่แพงที่สุดของสโมสร ฟอร์มจนถึงเวลานี้ยังไม่ถึงจุดที่คาดหวัง ยังต้องยกระดับขึ้นไปอีกมากสำหรับ ดาร์วิน นูนเญซ
#9

โลกในทุกวันนี้หมุนเวียนไปในแต่ละวันอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างรอบตัวผ่านไปไวมากๆในแต่ละวัน เมื่อรู้ตัวอีกทีบางอย่างก็อาจจะหายและเสียไปโดยไม่ทันตั้งตัว แต่มีหมู่บ้านหนึ่งที่สามารถหยุดเวลาอันมีค่าเอาไว้ได้ ดื่มด่ำไปกับทุกช่วงเวลาอย่างเชื่องช้า ค่อยๆผ่านไปแบบสโลว์ไลฟ์ ที่แห่งนั้นก็คือหมู่บ้านแม่กำปอง สถานที่พักผ่อนสุดชิลแสนสบายที่จะทำให้ลืมไปเลยว่าโลกใบนี้มันหมุนไวแค่ไหน

หมู่บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขาที่แสนสงบ แล้วเมื่อมีคนเดินทางมาถึงที่นี่กันมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการพูดกันไปปากต่อปากว่าที่นี่ดีแค่ไหน จนทำให้ปัจจุบันในปี 2023 ที่นี่กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเชยชมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่ได้ขับกล่อมให้หมู่บ้านแม่กำปองกลายเป็นสถานที่ที่ใครได้มาเยือนก็ต้องประทับใจไม่รู้ลืม

หากพูดถึงหุบเขา แน่นอนว่าภาพของต้นไม้เขียวขจี ความธรรมชาติจะต้องถูกนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ แล้วถ้าที่แห่งนั้นมีหมู่บ้านตั้งอยู่ด้วยล่ะก็ จะยิ่งดีแค่ไหนหากได้มาเยือน ใช่แล้ว หมู่บ้านแม่กำปอง มีทุกอย่างที่ทุกคนต้องการไว้อย่างเสร็จสรรพ ที่พักที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ บางที่อยู่กลางหมู่บ้าน บางที่อยู่ตามหุบเขา และบางทีก็ตั้งอยู่บนที่สูง ทั้งยังเต็มไปด้วยอาหารนานาชนิด อย่างเช่นอาหารพื้นเมืองที่หาจากที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียว

การเดินทางมายังหมู่บ้านแม่กำปองนั้นไม่ยากเลย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเครื่องบินมาลงที่เชียงใหม่ จะมีรถเหมารับ-ส่งอยู่ตลอด หรือจะสะดวกขับรถมาเองก็ได้เช่นกัน เส้นทางการไปยังหมู่บ้านไม่ได้ยากเลย ที่จอดรถมีกว้างขวางขึ้นกว่าเดิมเยอะในปี 2023 นี้ ไม่ว่าจะเดินมาทางยังไง ปลายทางก็คือหมู่บ้านที่ดีต่อใจแห่งนี้แน่นอน แต่สำหรับที่พักจำเป็นอย่างมากที่จะต้องหาที่ต้องการด้วยการจองมาก่อน การมาหาเอาเมื่อมาถึงเป็นเรื่องที่ไม่แนะนำ เพราะอย่างที่บอกไปว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยอะ ที่พักต่างๆจึงอาจจะเต็มไปหมดแล้วนั่นเอง

ถ้าหากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่อยากใช้ชีวิตแบบง่ายๆสบายๆไม่ต้องเร่งรีบแบบสโลว์ไลฟ์ มั่นใจอย่างมากว่าหมู่บ้านแม่กำปองมีให้ครบถ้วน การมาพักผ่อน 3 วัน 2 คืนที่นี่เป็นสิ่งที่คุ้มค่าน่าสัมผัส การมานั่งสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามพร้อมกาแฟแก้วโปรด หรือเดินชมหมู่บ้านอันแสนสงบแห่งนี้กลางหุบเขา ช่างเป็นช่วงเวลาที่อยากจะหยุดไว้ตรงนี้โดยไม่อยากจะให้มันหายไปไหนเลย
#10

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งปี แต่ช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุด ก็เห็นจะเป็นช่วงหน้าหนาวนี่แหละ ที่ผู้คนต่างหลั่งไหลไปชมความงามของทะเลหมอก และท้าความหนาวที่นั่น อากาศที่ม่อนแจ่ม จะมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ต่างจากที่อื่นๆ คนที่อยากจะพักผ่อน สัมผัสกับบรรยากาศป่าเขาอย่างเต็มที่ เข้ามาเที่ยวที่ม่อนแจ่ม หรือสถานที่อื่นๆ ทางภาคเหนือ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเลยแหละ ให้คุณเก็บความสุขเติมให้กับชีวิตได้เต็มที่

สำหรับสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนนิยมที่สุด เมื่อมาเที่ยวที่ ม่อนแจ่ม ก็คือการขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็น  และธรรมชาติที่สวยงามของที่นี่ ชมวิวภูเขาสูงใหญ่สลับกัน สวยงามเหมือนกับอยู่ในภาพวาดเลย ยิ่งถ้าได้ไปหน้าหนาวด้วยแล้ว คุณจะได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามขึ้นไปอีกระดับ เพราะมีทะเลหมอกให้ชม อีกทั้งบรรยากาศเหมือนกับเป็นใจให้ด้วย นักท่องเที่ยวที่ได้เคยมาเที่ยวที่ ม่อนแจ่ม ส่วนมากจะติดใจ จนต้องกลับมาเที่ยวอีกครั้งจนได้

กิจกรรมที่น่าสนใจ 
ในการเดินทางมาเที่ยวที่ ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ เท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมอะไรมากมายให้คุณได้ลอง ไม่ว่าจะเป็น
• การชมฟาร์มผีเสื้อ ที่มีทั้งกล้วยไม้สวยๆ และผีเสื้อมากมายให้คุณได้ชม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเยอะเหมือนกัน เหมาะกับการถ่ายรูปสวยๆ
• สวนสนุกในป่า พร้อมเครื่องเล่น ที่ Pongyang Jungle Coaster and Adventure Park
• เที่ยวปางช้าง ที่ปางช้างแม่สา ใครที่เป็นคนรักช้าง พลาดไม่ได้เลยที่ปางช้างแห่งนี้ คุณจะได้สัมผัส และใกล้ชิดกับช้างอย่างเต็มที่ ทั้งสนุกทั่งตื่นเต้น
• น้ำตกแม่สา ที่นี่ก็สวยงามไม่น้อยเลย บรรยากาศเป็นป่าอย่างแท้จริง แล้วยังมีสัตว์ป่าหลายชนิดออกมาให้ได้เห็น เป็นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาด
• ไร่สตรอเบอรี่ เป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็คอินอีกหนึ่งที่ มาเก็บ มาชิมสตรอเบอรี่สดๆ จากต้น หรือจะนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศ ก็ฟินไม่น้อย

ที่พักและอาหารการกิน
ที่ม่อนแจ่ม มีที่พักหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ท บ้านเป็นหลังๆ หรือจะเป็นกางเต๊นท์ ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะกางเต้นท์มากกว่า เพราะความรู้สึกที่ฟินกว่านั่นเอง ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็มีร้านรวงเยอะทีเดียว หรือจะเอาอาหารขึ้นไปทานเองก็สนุกไปอีกแบบ

การเดินทาง
สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถไฟ เครื่องบิน รถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารทั่วไป มาลงที่ตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นก็นั่งรถมาอีก 40 นาที ก็จะถึงม่อนแจ่ม รถยนต์ส่วนตัวขึ้นได้สบายๆ เส้นทางไม่ได้มีความลำบากอะไรเลย

ค่าบริการในการเข้าชม: ฟรี

สถานที่ตั้งของ ม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม อยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่